ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็กตร้าลูป ออย (ประเทศไทย)
WWW.EXTRALUB.COM แหล่งร่วมเครื่องมือช่างที่ใช้ในอู่ซ่อมรถ ทุกชนิด เช่น ลิฟท์ยกรถ น้ำมันไฮดรอลิก ฮ้อยยกรถ ลิฟท์ล้างอัดฉีด เครื่องอัดสายไฮดรอลิก เครื่องถอดยางรถสิบล้อ ห้องพ่นสี ห้องอบสี เครื่องเจียร์จานเบรค แท่นดึงตัวถัง เครื่องตั้งศูนย์ เครื่องถอดยาง เครื่องถ่วงยาง ปั้มลม เครื่องตั้งศูนย์รถสิบล้อ ตู้พ่นสี ตู้อบสี ลิฟท์เอ็กซ์ ลิฟท์จอดรถ เครื่องเติมลมไนโตรเจน
ห้องพ่นสี - อบสีรถยนต์ เทคโนโลยีก้าวไกล ภายในห้องสี่เหลี่ยม ถูกพัฒนามาเรื่อยๆ จนตอบโจทย์การแก้ไขปัญหางานซ่อมแซมสีรถยนต์ได้อย่างครอบคลุม แถมเชื้อเพลิงในการให้พลังงานความร้อนก็มีให้เลือกใช้มากขึ้น ได้แก่ น้ำมัน ไฟฟ้า และก๊าซฯ ซึ่งเชื้อเพลิงแต่ละประเภทจะแตกต่างกันในด้านการสิ้นเปลืองพลังงาน และประสิทธิภาพการในการให้ความร้อนดังนี้
สินค้าและบริการ
ภาพตัวอย่างห้องบบสี
ห้องพ่น-อบสีรถยนต์ มี 2 แบบ ได้แก่
แบบที่ 1 ห้องพ่นสีระบบแห้ง
เป็นห้องพ่นสีที่ได้รับความนิยมสูง ในอุตสาหกรรมพ่นสีเนื่องจากห้องพ่นสี นี้ง่ายต่อการบำรุงรักษา และไม่ต้องใช้น้ำ ในการดักละอองสี ผู้ใช้จึงหมดกังวลเรื่อง การบำบัดน้ำเสียซึ่งมีต้นทุนสูง ห้องพ่นสี ระบบแห้งนี้มีประสิทธิภาพในการดักละอองสี ถึง 80% ซึ่งตรวจสอบค่าของมลภาวะ อากาศแล้วน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนด จึงไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
ห้องพ่น-อบสีระบบแห้ง ถือว่าได้รับความนิยมสูงในภาคอุตสาหกรรมพ่นสีสำหรับยานยนต์ เพราะง่ายต่อการบำรุงรักษา และไม่ต้องใช้น้ำในการดักละอองสี ช่วยประหยัดต้นทุนการบำบัดน้ำเสียที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อย และด้วยประสิทธิภาพในการดักละอองสีที่สูงถึง 80% ตรวจสอบค่าของมลภาวะอากาศแล้วมีค่าน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนด จึงไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
ห้องพ่น-อบสีระบบแห้ง ทำงานโดยดูดอากาศลงใต้พื้น ผ่าน Filter ชั้นแรก และผ่าน Filter กรองละอองสี ก่อนจะย้อนกลับไปอัดลงเพดานอีกครั้งโดยผ่าน Filter อีกชั้นหนึ่ง โดยความร้อนส่วนเกินที่เหลือ ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของช่องระบายที่เรียกว่า ปล่องปล่อยไอร้อน แม้ว่าระบบแห้งนี้จะมีขั้นตอนที่สิ้นเปลือง Filter ไปบ้าง แต่ Filter จะอุดตันได้ช้ากว่าระบบเปียก จึงถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดและนิยมใช้กันมากในปัจจุบัน
แบบที่ 2 ห้องพ่นสีระบบม่านน้ำ
เป็นห้องพ่นสีที่ได้รับความนิยมสูงในอุตสาหกรรมพ่นสี เนื่องจากใช้น้ำ ช่วยในการดักละอองสี จึงทำให้ระบบมี ประสิทธิภาพในการดักละอองสีได้ถึง 95% ผู้ใช้จึงหมดความกังวลเรื่องอันตรายต่อ สิ่งแวดล้อม
ห้องพ่น-อบสีระบบ เปียก หรือที่เรียกว่า ห้องพ่น-อบสีระบบม่านน้ำ ดูจากหน้าค่าตาเผินๆ แล้ว ทำให้แอดมินนึกถึงสถานบริการห้องเช่ารายชั่วโมงซะอย่างงั้น แหม...เผลอไม่ได้พาออกนอกเรื่องตลอด เอาเป็นว่า ไอ้ห้องพ่นระบบม่านรูด เอ้ย!! ระบบม่านน้ำ ทำงานโดยอาศัยการไหลผ่านของม่านน้ำและละอองน้ำเป็นตัวจับละอองสีที่เหลือจาก การพ่น เพื่อช่วยให้ละอองสีฟุ้งกระจาย และลดกลิ่นที่เกิดจากสารระเหยอย่าง “ทินเนอร์” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยห้องพ่นระบบเปรียกนี้เหมาะกับการพ่นชิ้นงานทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ หรือชิ้นงานที่ต้องการพ่นอย่างต่อเนื่อง
คุณสมบัติของตู้พ่นสีแบบม่าน
ความรู้เกี่ยวกับการพ่นสีรถยนต์
ขั้นตอนการพ่นสีจริงระบบ 2K แบบ 2 ขั้นตอน
สีจริงระบบ 2K แบบ 2 ขั้นตอนนี้หมายถึง ระบบสีจริงทับหน้าด้วยตัวเคลียร์ 2K ซึ่งตัวสีจริงยังเป็นสีระบบ 1K แต่จะมีคูณสมบัติที่ดีกว่าสี 1K โดยทั่วไปคือ เนื้อสีเข้มข้น การกลบตัวของสีดี ใช้ทินเนอร์น้อย พ่นง่าย แห้งเร็ว เมื่อสีแห้งตัวฟิล์ม สีจะไม่เงาต้องใช้เคลียร์ทับหน้า สีจริงระบบ 2K แบบนี้ สามารถทำได้ทั้ง สีMetallic, สี Pearl, สี Sollic ซึ่งความเงางามนั้นจะขึ้นอยู่ที่การเลือกเคลียร์ที่ใช้ทับหน้าสี เคลียร์ 2K ที่ใช้กันอยู่จะมีอัตราส่วนผสมตั้งแต่ 2 ต่อ 1, 3 ต่อ 1, 4 ต่อ 1, 10 ต่อ 1 ขึ้นอยู่กับลักษณะของงาน ตัวอย่างเช่น 2 ต่อ 1 และ 3 ต่อ 1 จะเหมาะสำหรับงานพ่นทั้งบานและทั้งคันต้องพ่นในห้องพ่นสี เนื่องจากแห้งช้าใช้เวลาในการแห้งผิว 2-4 ชั่วโมง แต่จะให้ความเงางามที่ดีมาก ส่วนอัตราส่วนผสม 4 ต่อ 1, 10 ต่อ 1 จะเหมาะสำหรับงานซ่อมแผล เนื่องจากแห้งเร็วกว่าแห้งผิวใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที เท่านั้น ซึ่งสามารถพ่นโดยไม่ต้องใช้ห้องพ่นสีได้เคลียร์ 2K แบบนี้ปัจจุบันได้รับความนิยมมากและ ได้มาแทนที่เคลียร์ระบบ 1K ไปแล้ว
ขั้นตอนการเตรียมงาน
1. ใช้กระดาษทรายนํ้าเบอร์ 1,000 ขัดสีรองพื้น
2. ล้างทำความสะอาดให้ทั่วตัวรถ
3. ใช้ลมเปาไล่ความชื้นออก
4. ติดกระดาษปิดบังส่วนที่ไม่ต้องการพ่นสี
5. ใช้ลมเป่าไล่ฝุ่นละอองให้ทั่ว
6. นำรถเข้าห้องพ่นสี
7. ติดกระดาษปิดบังส่วนที่ไม่ต้องการพ่นสี
8. ทำความสะอาดผิวชิ้นงานด้วยนํ้าเช็ดคราบ
9. ใช้ลมเป่าไล่ฝุ่นละอองให้ทั่ว
10. นำผ้าเหนียว (Tack Cloth) มาลูบเบาๆ บนผิวชิ้นงาน เพื่อจับฝุ่น
11. ผสมสีนำมาพ่นโดยให้ปฎิบัติตามคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิตของสีแต่ละยี่ห้อ
12. พ่นสีจริงจำนวน 2 เที่ยว ทิ้งช่วงระหว่างเที่ยว 10-15 นาที แรงดันลมที่ใช้ 40-50
ปอนด์ต่อตรางนิ้ว
13. เมื่อพ่นสีเสร็จ ให้ทิ้งช่วงระหว่างสีจริงกับเคลียร์ 15 นาที
14. ให้นำผ้าเหนียว (Tack Cloth) มาลูบเบาๆ บนผิวสี เพื่อจับละอองสีที่ติดอยู่
15. ผสมเคลียร์มาพ่นโดยให้ปฎิบัตืตามคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิตเคลียร์แต่ละยี่ห้อ
16. พ่นเคลียร์จำนวน 2 เที่ยว ทิ้งช่วงระหว่างเที่ยว 15 นาที แรงดันลมที่ให้ 50-60 ปอนด์ต่อตรางนิ้ว
17. เมื่อพ่นเคลียร์เสร็จ ทิ้งไว้ในห้องพ่นสีเพื่อให้สีแห้งผิว 2-4 ชั่วโมง หรือถ้าต้องการอบก็สามารถทำได้ โดยให้ศึกษาจากคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิตแต่ละยี่ห้อ
18. การขัดยาเงาตกแต่งให้ทำหลังเคลียร์แห้งตัว 12 ชั่วโมง
ขั้นตอนการพ่นสีจริงระบบ 2K แบบ 3 ขั้นตอน
สีจริง 2K แบบ 3 ขั้นตอนส่วนมากจะใช้ในการพ่นแม่สีมุกทับบนสีจริงในเชดต่างๆ ซึ่งสีจริงจะมีเชดสีที่ใกล้เคียงกับแม่สีมุข เพื่อให้การแสดงผลของแม่สีมุกออกมาในมุมมองที่เด่นชัดขึ้น แม่สีมุกสีนิยมนำมาพ่น เช่น มุกขาว มุกนํ้าเงิน มุกม่วง มุกเขียว มุกทอง ส่วนเชดสีจริงที่ใช้ ตัวอย่างเช่น สีขาว สีฟ้าอ่อน สีเขียว อ่อน สีเหลืองอ่อน (แนะนำควรเลือกเชดสีอ่อนๆ เพราะคุณสมบัติ ของมุกจะมีความโปร่งแสงมากถ้าเลือกสีจริงเชดสีเข้มสีมุกจะไม่สามรถกลบสีชั้นล่างได้)
ขั้นตอนการเตรียมงาน
1. ขัดสีรองพื้นด้วยกระดาษนํ้าเบอร์ 1,000
2. ล้างทำความสะอาดชิ้นงาน
3. ใช้ลมเป่าไล่ความชื้นให้ชิ้นงานแห้ง
4. ทำความสะอาดชิ้นงานด้วยนํ้าเช็ดคราบ
5. ใช้ลมเป่าไล่ฝุ่นละอองบนชิ้นงาน
6. นำผ้าเหนียวมาลูบเบาๆ บนผิวชิ้นงาน เพื่อจับฝุ่น
7. นำสีจริงที่เลือกไว้ผสมกับทินเนอร์ตามอัตราส่วนผสมมาพ่นลงบนชิ้นงาน
2 เที่ยว ทิ้งช่วงระหว่างเที่ยว 10 นาที
8. นำแม่สีมุกผสมกับทินเนอร์ตามอัตราส่วนพ่นบนชิ้นงาน 2-3 เที่ยว ทิ้งช่วง
ระหว่างเที่ยว 10 นาที
9. ทิ้งช่วงระหว่างสีกับเคลียร์ 15 นาที
10. นำผ้าเหนียวมาลูบเบาๆ บนผิวชิ้นงาน เพื่อจับละอองสี
12. นำเคลียร์ 2K มาพ่นจำนวน 2 เที่ยว ทิ้งช่วงระหว่างเที่ยว 10-15 นาที